การวินิจฉัยและการรักษาโรค Balanitis
รับการรักษา Balanitis ที่ถูกต้อง เยี่ยมชมคลินิกของเราเพื่อรับการปรึกษาและการดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้แน่ใจว่าการฟื้นตัวจะรวดเร็ว ตรงจุด และมีประสิทธิภาพ — เพื่อให้คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่มีอาการกลับมาเป็นซ้ำ

Balanitis คืออะไร?
Balanitis เป็นภาวะที่รักษาได้ ซึ่งมักพบในผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ อาการหลักได้แก่ การอักเสบและอาการปวดบริเวณหัวอวัยวะเพศ การรักษาโดยทั่วไปจะใช้ยาต้านเชื้อรา ยาปฏิชีวนะ การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และในบางกรณีอาจมีการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
แนวทางการรักษาของเรา
มีทางเลือกอะไรบ้าง?
การอักเสบของหัวอวัยวะเพศที่เกิดจากเชื้อรา แบคทีเรีย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กลาก หรือสารระคายเคือง อาการรวมถึงรอยแดง แสบร้อน มีสารคัดหลั่ง กลิ่น และอาการปวดขณะดึงหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศกลับ
เสียงตอบรับและรีวิวจากผู้ป่วยของเรา
ยาเม็ดเดียว อาการแดงก็หายไปภายใน 48 ชั่วโมง
ครีมผสมของพวกเขาช่วยยุติอาการแสบร้อนและกลิ่นเหม็นที่เป็นมาหลายเดือน
จองปรึกษากับแพทย์ ของคุณวันนี้

01. ปรึกษาแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ
ระบุสาเหตุที่แท้จริงและพัฒนากลยุทธ์การรักษาเฉพาะบุคคล

02. แผนการรักษา
การรักษาอาจเกี่ยวข้องกับการใช้สเตียรอยด์ทาภายนอกหรือการขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ขึ้นอยู่กับความรุนแรง

03. การติดตามผล
นัดหมายการติดตามผลกับแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะของเราเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของอาการ

การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ณ สถานที่
ทราบผลภายใน 15 นาที
การตรวจ STI PCR ทราบผลภายในวันเดียว
ไม่จำเป็นต้องคาดเดา
การรักษาที่ตรงกับเชื้อโรค
การใช้ครีมและยาเม็ดรับประทานร่วมกัน
การติดตามผลทาง WhatsApp
ส่งรูปภาพเพื่อช่วยให้มั่นใจ
คำถามที่พบบ่อย
อาการของ Balanitis ที่บ่งบอกว่าควรไปพบแพทย์คืออะไร?
อาการที่ต้องระวังคือ แสบร้อน ระคายเคือง แดง บวม คัน หรือมีสารคัดหลั่งผิดปกติบริเวณปลายอวัยวะเพศ หากเป็นเกิน 2–3 วันควรพบแพทย์ทันที
ทำไม Balanitis ถึงเกิดขึ้นบ่อยในผู้ชายที่ไม่ได้ขลิบ?
เพราะทำความสะอาดบริเวณหนังหุ้มปลายได้ยากกว่า ทำให้เกิดการสะสมของเชื้อรา แบคทีเรีย และความอับชื้นได้ง่าย
ต้องตรวจอะไรบ้างเพื่อยืนยันว่าเป็น Balanitis?
แพทย์อาจตรวจร่างกาย ตรวจเชื้อรา แบคทีเรีย หรือ swab บริเวณอักเสบ เพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงและเลือกยาได้อย่างแม่นยำ
Balanitis เกิดจากการติดเชื้อหรือภูมิแพ้มากกว่ากัน?
ทั้งสองสาเหตุพบบ่อย แพทย์จึงต้องประเมินว่าเป็นจากเชื้อรา แบคทีเรีย สบู่ น้ำยาทำความสะอาด หรือการเสียดสี เพื่อให้การรักษาเหมาะสมที่สุด
การรักษา Balanitis ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะดีขึ้น?
ส่วนใหญ่ดีขึ้นภายใน 24–72 ชั่วโมงหลังเริ่มยา แต่กรณีดื้อยา หรือเกิดจากหลายปัจจัย อาจใช้เวลา 1–2 สัปดาห์
หากรักษาแล้วทำไมอาการถึงกลับมาเป็นอีก?
เพราะมักมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ความอับชื้น การทำความสะอาดไม่เหมาะสม โรคเบาหวานแฝง หรือการใช้สบู่แรง ๆ ซึ่งต้องแก้ทั้งสาเหตุและพฤติกรรมร่วมด้วย
สามารถมีเพศสัมพันธ์ระหว่างรักษา Balanitis ได้ไหม?
ควรหลีกเลี่ยงจนกว่าอาการจะหายเพื่อลดการระคายเคืองและการแพร่เชื้อ (หากเกิดจากการติดเชื้อ)
จำเป็นต้องขลิบอวัยวะเพศเพื่อรักษา Balanitis หรือไม่?
ไม่จำเป็นเสมอไป แต่ในรายที่เป็นซ้ำบ่อย หรือมีหนังหุ้มปลายตีบ ก็อาจแนะนำให้ขลิบเพื่อป้องกันการเกิดซ้ำในระยะยาว
โรคเบาหวานเกี่ยวข้องกับ Balanitis อย่างไร?
ระดับน้ำตาลสูงทำให้เกิดการติดเชื้อราและแบคทีเรียได้ง่าย แนะนำให้ตรวจเลือดถ้าอาการเป็นเรื้อรังหรือกลับมาเป็นบ่อย
หลังรักษา Balanitis ควรดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้กลับมา?
หลีกเลี่ยงสบู่แรง ๆ ทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งทุกครั้ง เลือกกางเกงที่ระบายอากาศได้ดี และตรวจระดับน้ำตาลเป็นระยะหากมีความเสี่ยง
พร้อมที่จะยุติอาการแดงและแสบร้อนแล้วหรือยัง?




